ลูกนอนเองได้ใน 14 วัน
คุณแม่ไม่ต้องกล่อมจน“หมดแรง”

เพราะการนอนที่ดีไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่สร้างได้ด้วยวิธีที่ถูกต้อง

โปรแกรมฝึกลูกนอนเองแบบอ่อนโยน อ้างอิงวิทยาศาสตร์ พร้อมที่ปรึกษาดูแลทุกขั้นตอน

คอร์สนี้เหมาะสำหรับบ้านที่ต้องการ…

  • ✔️ แก้ไขปัญหาการนอนของน้อง
    เช่น ตื่นบ่อยกลางคืน / ตื่นแล้วนานกว่าจะหลับ / นอนกลางวันสั้น / ตื่นเช้ามืด / ใช้เวลานานกว่าจะหลับ
  • ✔️ แก้ไขพฤติกรรมที่เกี่ยวข้องกับการนอน
    เช่น ติดเต้านอน (คุณแม่ไม่จำเป็นต้องเลิกเต้านะคะ) / ติดขวดนมหลับ / ติดจุกหลอก / ต้องไกวเปลถึงจะหลับ
  • ✔️ สร้างรูทีนนอนที่มั่นคง
    อยากมีตารางการนอนที่เหมาะสมกับวัย ไม่ต้องเดาเวลานอน–ตื่น และช่วยให้น้องพักผ่อนได้เต็มที่
  • ✔️ ลดความเหนื่อยล้าของคุณพ่อคุณแม่
    จากการกล่อม นอนบนตัว เดิน หรืออุ้มจนเมื่อย และอยากให้เวลานอนของลูกเป็นเวลาพักของครอบครัวด้วย
  • ✔️ ฝึกให้ลูกหลับเองอย่างมั่นใจ
    เพื่อให้น้องเรียนรู้การปลอบตัวเอง และหลับต่อเองเมื่อตื่นกลางดึก ไม่ต้องพึ่งผู้ใหญ่ตลอดเวลา
  • ✔️ เตรียมพร้อมสำหรับพัฒนาการใหม่ ๆ
    เช่น การคลาน เกาะเดิน การมีฟัน หรือการเข้าเนอร์สเซอรี่ โดยไม่ให้การนอนรวน
  • ✔️ สร้างนิสัยการนอนที่ดีในระยะยาว
    เพื่อปูพื้นฐานสุขภาพกายและสมองของลูก และความสงบสุขในการนอนของทั้งบ้าน
ปรึกษาโค้ชฟรี 15 นาที
📲 วิธีรับสิทธิ์ง่าย ๆ
  1. กดปุ่มด้านบนนี้ ➜ ระบบจะพาไปที่แชท LINE
  2. พิมพ์เลข 15 ทันทีในแชท (แล้วกดส่ง)
  3. รอทีมงานยืนยัน แล้วนัดเวลาเพื่อปรึกษาโค้ชฟรี 15 นาที 🎉
บทความ: ทำไมการตื่นเช้าเวลาเดิมสำคัญ รวมปัญหาการนอนที่พบบ่อย แนวคิดเบื้องหลังวิธีฝึกแบบอ่อนโยน

✨ วันนี้เอาความรู้ที่รวบรวมมาจากหลาย ๆ ที่มาฝากคุณแม่นะคะ ♥️

💤 ทำไม “การตื่นเช้าเวลาเดิมทุกวัน” จึงสำคัญกับการนอนของลูก

สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่ลงคอร์ส จะเห็นว่าเรากำหนดเวลาเริ่มวันใหม่ที่ชัดเจน และทำซ้ำทุกวัน แม้เสาร์–อาทิตย์

Circadian Rhythm หรือนาฬิกาชีวิต คือระบบที่บอกให้ร่างกายรู้ว่าเมื่อไหร่ควรตื่น/หลับ เด็กเล็กไวต่อการเปลี่ยนแปลงมาก

⏰ เมื่อตื่นเวลาเดิมทุกวัน ผลดีคือ
  • สมองเข้าใจจังหวะกลางวัน–กลางคืน
  • หลับง่ายขึ้น
  • ตื่นเช้าได้เอง
  • อารมณ์และสมาธิดีขึ้น
⚠️ ถ้าตารางไม่นิ่ง อาจเกิด
  • หลับยาก
  • ตื่นกลางคืน
  • ง่วงระหว่างวัน
✅ วิธีช่วยตั้งนาฬิกาชีวภาพ
  1. ตั้งเวลาตื่นให้ตรงทุกวัน เช่น 07:00
  2. รับแดดยามเช้า ช่วยตื่นชัดขึ้น
  3. ลดแสง/งดจอก่อนนอน 1–2 ชม.
  4. ทำรูทีนก่อนนอนที่คาดเดาได้ และทำซ้ำ

🌤 เริ่มจาก “ปลุกให้ตื่นตรงเวลา” สิ่งเล็ก ๆ นี้เปลี่ยนการนอนของลูกได้จริง ทั้งวันนี้และระยะยาว

📚 อ้างอิง
  • Dr. Chris Winter – Verywell Health
  • Handprints Academy, PMC
  • Sleep.com, Sleep Foundation
  • Cleveland Clinic
  • Heaven Sent Sleep
  • โพสต์นี้จะมาเตือนเผื่อคุณพ่อคุณแม่มองข้าม

    (ตื่นถี่…ไม่ใช่แค่เรื่องนอน แต่กระทบสมองจริง ๆ ค่ะ)

  • 🧠 สมองเด็กกับ “วงจรการนอน”

    และทำไมตื่นบ่อยอาจส่งผลต่อพัฒนาการ??

    การนอนของเด็กเล็กไม่เหมือนผู้ใหญ่ค่ะ สมองของเขายัง กำลังเรียนรู้ “จังหวะหลับ–ตื่น” เป็นครั้งแรกในชีวิต

  • ซึ่งใน 1 คืน เด็กจะมี วงจรการนอนประมาณ 50–60 นาที ต่อรอบ
    แต่ละรอบจะประกอบด้วย :

    • 🔹 หลับตื้น → หลับลึก → หลับฝัน → ตื่นเบา ๆ แล้วเริ่มรอบใหม่
    • (นี่คือสาเหตุของการตื่น เพราะทุกๆคนมีวงจรการนอนและในเด็กค่อนข้างสั้นไม่เหมือนเราค่ะ)

  • 💤 ถ้าน้องนอนไม่ต่อรอบ

    (เช่น สะดุ้งตื่นทุก 1 ชั่วโมง) สมองจะ “ไม่ทันเข้าสู่ช่วงหลับลึก”

    และหลับลึกนี่เอง…คือช่วงที่สมอง
    จัดระเบียบความจำ ฟื้นฟูอารมณ์ และ กระตุ้นการเติบโต(โกรทฮอร์โมน)

  • 📚 งานวิจัยจาก Sleep Research Society (2020)
    “เด็กที่มี sleep fragmentation (การตื่นถี่ระหว่างคืน) มีพัฒนาการด้านอารมณ์และความจำช้ากว่าเด็กที่นอนต่อรอบได้”
  • เพราะฉะนั้น การนอนที่ต่อรอบ(สามารถต่อไปวงจรต่อไ ปได้) ไม่ใช่แค่ทำให้แม่ได้นอนนะคะแต่มันคือการเปิดโอกาสให้สมองลูก พัฒนาเต็มที่จริง ๆ

ทำไมลูกนอนกลางวันไม่ดี ส่งผลต่อนอนกลางคืน?

(และทำไมการฝืนให้ลูกตื่น…อาจยิ่งทำให้ปัญหาหนักขึ้น) 🐼😣

หลายคนอาจเคยได้ยินว่า
“ถ้าไม่ให้นอนกลางวัน เดี๋ยวกลางคืนจะหลับง่ายขึ้น”
แต่จริง ๆ แล้ว…
ร่างกายน้องไม่ได้ทำงานแบบนั้นเลยค่ะ!

เพราะ “การนอนกลางวัน” คือช่วงที่สมองรีเซ็ตตัวเอง (ไปชาร์จพลังหน่อย) การนอนกลางวันไม่ใช่แค่พักเหนื่อย แต่เป็นเวลาที่สมองเคลียร์ข้อมูลจากสิ่งเร้าทั้งวัน

ถ้าน้องนอนไม่พอ หรือ nap สั้นเกินไป ระบบประสาทที่ควบคุมความตื่นตัว (sympathetic) จะทำงานหนักขึ้น… เหมือนผู้ใหญ่ที่ดื่มกาแฟตอนบ่าย แล้วกลางคืนนอนไม่หลับเลยค่ะ ☕️♨️

และเมื่อร่างกายต้องฝืนให้อยู่ต่อ…
ฮอร์โมน cortisol ก็จะหลั่งขึ้นมา เพื่อให้ลูกยังตื่นได้ แต่เจ้า cortisol นี่แหละค่ะ ที่จะทำให้:

  • หลับยาก
  • เข้าสู่หลับลึกไม่ได้
  • สะดุ้งง่าย
  • ตื่นกลางดึกบ่อย
  • ตื่นเช้ามืด

เพราะฉะนั้น การนอนกลางวันตามเวลาที่เหมาะสมกับช่วงวัย ก็สำคัญมากเช่นกันนะคะ ♥️

คำแนะนำ
  1. พาน้องนอนตาม ww (ระยะเวลาที่ตื่นได้) → ดรีมแนบไว้ด้านบน fanpage แล้วนะคะ
  2. ปรับภาพแวดล้อมที่ส่งเสริมการนอน เช่น ห้องที่มืด เงียบ และเย็น
  3. อาจทำ routine สั้น ๆ ก่อนนอนกลางวัน (ช่วยเข้าสู่โหมดการนอน)
  4. หากน้องนอนกลางวันไม่ดี วันนั้นให้เข้านอนเร็วขึ้น

การนอนกลางวันที่ดี = พื้นฐานของการนอนกลางคืนที่ดี 🥰
เมื่อสมองได้พักอย่างพอดี… ลูกจะหลับง่าย หลับลึก และตื่นมาอารมณ์ดี

ดรีมขอเป็นกำลังใจให้แม่ ๆ ที่กำลังเรียนรู้การนอนของลูกน้อยนะคะ 💕
เราอาจไม่ได้เป๊ะทุกวัน แต่แค่เข้าใจธรรมชาติของลูก… ก็เดินต่อได้แน่นอนค่ะ 🤘🏻

รีวิวจากคุณแม่ที่เคยใช้คอร์ส

รีวิวแม่หยก: ลูกหลับยาวขึ้นตั้งแต่คืนที่ 3 จากเดิมตื่นทุก 2 ชม.

"น้องหลับยาวขึ้นตั้งแต่คืนที่ 3 แม่ก็นอนได้เต็มอิ่มขึ้นมากค่ะ ❤️"

– แม่หยก ⭐⭐⭐⭐⭐

รีวิวแม่จี้: ค่อย ๆ สอน เข้าใจพัฒนาการเด็ก ลูกหลับเองได้แบบไม่มีน้ำตา

"ตอนแรกกังวล แต่คอร์สนี้ค่อย ๆ สอน เข้าใจพัฒนาการเด็กดีมาก สุดท้ายหลับเองได้แบบไม่มีน้ำตา"

– แม่จี้ ⭐⭐⭐⭐⭐

รีวิวแม่ลี: ได้นอนเต็มตื่นครั้งแรกในรอบหลายเดือน

"แม่ได้นอนเต็มตื่นครั้งแรกในรอบหลายเดือน ไม่คิดว่าจะทำได้ง่ายแบบนี้ ประทับใจมาก"

– แม่ลี ⭐⭐⭐⭐⭐

รีวิวแม่หมิว: เริ่มลังเลแต่ทำได้จริง ลูกหลับเองได้

"เริ่มฝึกแอบลังเล แต่พอลองทำตามแบบค่อย ๆ ปรับ ลูกหลับเองได้จริง แม่ปลื้มมาก"

– แม่หมิว ⭐⭐⭐⭐⭐

รีวิวแม่เบส: หลับเร็วขึ้นจาก 40 นาทีเหลือ 10 นาที ไม่ตื่นกลางดึก

"คอร์สเข้าใจง่าย ทำตามได้จริง ลูกหลับเร็วขึ้นจาก 40 นาทีเหลือ ~10 นาที ไม่ตื่นกลางดึก"

– แม่เบส ⭐⭐⭐⭐⭐

รีวิวแม่ฟ่ง: คุณพ่อคุณแม่ก็ได้เวลาพักผ่อนที่แท้จริงกลับคืนมาแล้วค่ะ

"ไปเที่ยวสวิตเซอร์แลนด์มาแล้ว และน้องยังคงปรับตัวกับการเดินทางได้ดีมาก ๆ "

– แม่ฟ่ง ⭐⭐⭐⭐⭐

ทีมโค้ชผู้เชี่ยวชาญ

ผ่านการอบรมจากสถาบันที่เชื่อถือได้ มีประสบการณ์ดูแลพัฒนาการเด็ก และปรับแผนให้เหมาะกับแต่ละบ้าน

โค้ชดรีม ผู้ก่อตั้ง SleepyBaby
โค้ชดรีม
Founder • Sleepy Baby Thailand

ผู้เชี่ยวชาญการนอนเด็กเล็ก เน้นวิธีอ่อนโยน อ้างอิงหลักฐานเชิงวิทยาศาสตร์ ปรับแผนตามอายุ นิสัย และบริบทครอบครัว

Gentle Method Evidence-based Toddler Sleep
ติดต่อโค้ช
โค้ชอ้น ทีมโค้ช SleepyBaby
โค้ชอ้น
Sleep Coach • Sleepy Baby Thailand

โค้ชดูแลการฝึกทีละขั้น ปรับตารางนอน/ตื่น และโค้ชพ่อแม่ให้ทำได้จริงในชีวิตประจำวัน

Routine Design Nap Strategy Parent Coaching
ติดต่อโค้ช

ราคาคอร์ส

แพ็กเกจราคาและสิทธิประโยชน์คอร์ส SleepyBaby

พร้อมเริ่มเปลี่ยนการนอนของลูกแล้วใช่ไหม?

สมัครคอร์สวันนี้ รับคำแนะนำเฉพาะลูกคุณโดยตรงจากผู้เชี่ยวชาญ

สมัครคอร์สตอนนี้

คำถามที่พบบ่อย (FAQ)

→ 👶 ปูพื้นฐานการนอน (ตั้งแต่แรกเกิด) คุณพ่อคุณแม่สามารถเริ่มปูพื้นฐานได้ตั้งแต่วันแรกที่กลับจากโรงพยาบาลเลยค่ะ เช่น สร้างกิจวัตรก่อนนอน แยกกลางวัน–กลางคืน และจัดสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม ช่วงนี้ยังไม่ใช่การ “ฝึกนอนเต็มรูปแบบ” แต่คือการวางรากฐาน
→ 😴 Sleep Training (ฝึกนอนอย่างเป็นระบบ) เหมาะกับเด็กอายุ 3–4 เดือนขึ้นไป เพราะระบบการนอนเริ่มชัดเจน และสามารถเรียนรู้การนอนเองได้ แต่ละบ้านสามารถเลือกช่วงเวลาที่พร้อมจริง ๆ ได้ค่ะ

→ 🍼 ได้ค่ะ! สามารถฝึกนอนควบคู่กับการให้นมมื้อดึกได้ ขึ้นอยู่กับอายุ น้ำหนัก และพัฒนาการของลูก โดยผู้เชี่ยวชาญจะช่วยวางวิธีให้นมอย่างเหมาะสมค่ะ

→ 🚫 ไม่ใช่ค่ะ! การฝึกนอนมีหลายวิธี ไม่จำเป็นต้องปล่อยให้น้องร้องไห้คนเดียวเสมอไป 💡 จุดสำคัญคือ “สอนให้ลูกหลับเองอย่างค่อยเป็นค่อยไป” ซึ่งไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีการร้องเลยนะคะ 😊

→ 🤱 ได้ค่ะ! และนี่แหละคือเหตุผลหลักที่คุณพ่อคุณแม่เลือกฝึก เพื่อช่วยให้ลูกค่อย ๆ เปลี่ยนจากการ “พึ่งพา” ไปสู่การ “นอนเองได้”

→ 🧠 ไม่ค่ะ งานวิจัยยืนยันแล้วว่าการฝึกนอนไม่กระทบสมอง อารมณ์ หรือความผูกพันในครอบครัว ✨ ในทางตรงกันข้าม เด็กที่นอนเพียงพอจะมีพัฒนาการด้านสมอง อารมณ์ และพฤติกรรมที่ดีกว่าด้วยค่ะ

→ 👩‍👩‍👧‍👦 ไม่ยากค่ะ แค่ทุกคนใช้วิธีเดียวกัน เด็กจะเรียนรู้ได้เร็วขึ้นมาก ๆ เลยค่ะ เพราะเด็ก ๆ เก่งกว่าที่คิดนะคะ 😊

→ ✅ ควรค่ะ! เด็กที่นอนน้อยมักพึ่งพาผู้ใหญ่มากเกินไป การฝึกนอนช่วยให้คุณภาพการนอนดีขึ้น ร่างกายและสมองพักผ่อนเต็มที่ คุณพ่อคุณแม่ก็มีเวลาและพลังกลับคืนมาค่ะ

→ 🔊 ได้ค่ะ เพียงปรับสภาพแวดล้อม เช่น ใช้ white noise และทำห้องให้มืด ก็สามารถฝึกนอนได้ ทางทีมเรามีคำแนะนำเรื่องนี้ให้ด้วยค่ะ

→ 📚 หาข้อมูลเองได้แน่นอนค่ะ แต่ผู้เชี่ยวชาญจะช่วยวิเคราะห์ปัญหาเฉพาะของลูกแต่ละคน 🛠️ มีการปรับตารางนอน คอยซัพพอร์ต และทำให้คุณพ่อคุณแม่มั่นใจ เดินไปถึงเป้าหมายได้เร็วขึ้น

→ 🛏️ ไม่จำเป็นค่ะ! เริ่มจากการแยก “พื้นที่นอน” ให้ชัดเจนก่อน เช่น การแยกเตียงของลูกในห้องเดียวกับพ่อแม่ แล้วค่อยปรับตามความเหมาะสมของแต่ละครอบครัว
สมัครคอร์สทาง LINE